การท่องเที่ยวยุโรป ฉบับ “เรือสำราญ”

June 8, 2021

การท่องเที่ยวยุโรป ฉบับ “เรือสำราญ”
.
.
เมื่อนึกถึง “ยุโรป” หลายคนคงคิดว่าต้องใช้เงินจำนวนมากแน่ๆ ในการไปเที่ยวแต่ละครั้ง หรือต้องใช้เวลานานแค่ไหนนะ ต้องลางานเพื่อไปเที่ยวหลายวันรึเปล่า หรือคุณอาจจะไม่รู้เลยว่าควรจะเลือกเส้นทางไหนดี การที่จะไปหลายประเทศ เรื่องการทำวีซ่า หรือการเดินทางเปลี่ยนประเทศก็เป็นปัญหาที่หลายๆคนกลัวเหมือนกัน
.
วันนี้อยากจะแนะนำการเที่ยวยุโรป ฉบับ “เรือสำราญ” เปิดประสบการณ์เที่ยวยุโรปแนวใหม่ แถมมีทุกอย่างครบครันด้วยนะ สงกรานต์ 2564 นี้ ไปๆไปล่องเรือเที่ยวยุโรปกัน 8 วัน 7 คืน ยุโรปจะมีอะไรให้เที่ยวบ้างไปดูกันเลย
.
การท่องเที่ยวยุโรป โดยเรือสำราญ ถ้าลองแบ่งออกมาก็จะเป็นยุโรปตะวันตก และยุโรปตะวันออก เพื่อให้เห็นภาพกันชัดเจน การแบ่งด้วยตะวันตก และตะวันออกแบบนี้ น่าจะทำให้ทุกคนเห็นภาพ และเลือกเที่ยวกันได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเส้นทางยอดฮิตในยุโรปตะวันตก ส่วนมากที่นิยมกันจะเป็นเมืองใหญ่ๆในแต่ละประเทศ เช่น สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี ประเทศที่ทุกๆคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว ส่วนในยุโรปตะวันออก เช่น อิตาลี มอนตา มอนเตเนโกร โครเอเชีย อาจจะเป็นประเทศที่ไม่ค่อยเคยได้ยิน แต่รับรองความสวยงามไม่เป็นรองใครเลยหล่ะ
.
ยุโรปตะวันตก Spain France และ Italy
.
บาร์เซโลน่า (Barcelona), ประเทศสเปน
.
เมืองบาร์เซโลน่า (Barcelona) เมืองใหญ่อันดับ 2 ของสเปน เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน สถานที่ที่มีจุดเด่นด้านการตกแต่ง สวนสาธารณะปาร์ค กูเอล (Parque Guell) ซึ่งเป็นผลงานของอันตอนี เกาดี้ (Antoni Gaudi) ศิลปินผู้มีอิทธิพลต่องานศิลปะ ในนี้เราสามารถเดินเล่นเพลิดเพลินภายในสวนซึ่งประดับตกแต่งลวดลายด้วยเครื่องกระเบื้องโมเสกนับล้านชิ้น เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และไม่ควรพลาดที่จะเยี่ยมชม มหาวิหารซากราด้า ฟามีเลีย หรือ The Sagrada Familia มหาวิหารนี้อยู่คู่ชาวบาร์เซโลนามากว่า 136 ปี นับตั้งแต่เริ่มวางศิลาฤกษ์ในปี 1882 เลยทีเดียว ซึ่งมีความหมายว่า ครอบครัวพระเยซู หรือ เป็นที่รู้จักในนามโบสถ์ที่สร้างมา 136 ปีแล้ว ไม่แล้วเสร็จ เป็นโบสถ์ที่ออกแบบตกแต่งที่แปลกตา และการแกะสลักเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ที่งดงามมากที่หนึ่ง รับรองได้ความรู้กลับไปเพรียบ
.
วาเลนเซีย ประเทศสเปน (Valencia ,Spain)
.
เมืองวาเลนเซีย เป็นเมื่อที่สามารถศึกษาชม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอเชียโนกราฟิก (Oceanographic Valencia) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ซึ่งเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการล้ำสมัย และมีสิ่งมีชีวิตทางทะเลมากกว่า 500 ชนิด นอกจากจะได้เห็นวาฬเบลูกา ฉลาม วอลรัส เพนกวิน และสัตว์อื่นๆ อีกหลายร้อยสายพันธุ์แล้ว การได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมความบันเทิงที่ใได้เรียนรู้และสัมผัสกับสัตว์ต่างๆ ในแบบที่ไม่เคยมาก่อน ก็เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลย
.
เมืองแห่งศิลปะ และวิทยาศาสตร์ (City of Arts and Sciences) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และ ทันสมัยที่สุดที่ในเมืองวาเลนเซีย ทางด้านสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม ได้รับการออกแบบโดย Santiago Calatrava และ Felix Candela
.
.
นอกจากนี้แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีก เช่น หอคอยตอร์เรส เด เซอรานอซ (Tower of Serranos) ซึ่งเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่ง และยังถือว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวเมืองที่ดีที่สุดอีกด้วย มหาวิหารซานตามาเรียแห่งวาเลนเซีย (Cathedral de Santa Maria de Valencia) ถูกสร้างขึ้นในสไตล์ผสมผสานของแนวกอธิค นีโอคลาสสิก และ บาร็อค หอคอย Torres de Quart ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสองประตูของกำแพงเมืองโบราณของเมืองวาเลนเซียแห่งนี้
.
อิบิซ่า ประเทศสเปน (Ibiza ,Spain)
.
เมืองอิบิซ่า เมืองชายฝั่งท่าเรือ บรรยากาศบริเวณท่าเรือสวยงาม Dalt Vila UNESCO site ป้อมปราการที่สูงเก่าแก่ที่สุดของเมืองอิบิซ่า ซึ่งสร้างขึ้นโดย Charles V ในศตวรรษที่ 16 และยังมี วิหาร The Cathedral of Our Lady of the Snows โบสถ์ใหญ่ของเมืองที่เป็นผสมผสานของสถาปัตยกรรมกอทิก และสถาปัตยกรรมบาโรก
.
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร และร้านคาเฟ่ ให้เลือกแวะดื่ม และ ชิม ได้ตามต้องการ หรือเลือกเดินเล่นช้อบปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า Shopping Centre in Ibiza ซึ่งมีสินค้าแบรนด์เนมมากมายให้เลือกช้อปปิ้งกันได้อย่างจุใจ
.
โพรวองซ์, ประเทศฝรั่งเศส ( Provence, France)
.
เมืองเอ็กซ์ (Aix) เมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในเรื่องของทุ่งลาเวนเดอร์ และศูนย์แสดงศิลปะชื่อดัง อย่าง Caumont Centre d’Art ซึ่งเป็นศูนย์จัดแสดงนิทรรศการศิลปะรวมไปถึงคอนเสิร์ต และการแสดงดนตรีต่างๆ ซึ่งการชมผลงานศิลปะ และความงามของสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศสเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจ หรือจะเดินเล่นบน ถนนมิราโบ หรือ Cours Mirabeau ซึ่งเป็นถนนที่มีความสวยงามอีกหนึ่งแห่งของฝรั่งเศส และ ยังได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
.
ทุ่งลาเวนเดอร์ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของเมืองโพรวองซ์ ทุ่งดอกไม้สีม่วงที่ผลิบานสะพรั่งสุดลูกหูลูกตา และส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ และเราได้เดินเล่นเพลิดเพลิน ถ่ายภาพทุ่งลาเวนเดอร์ได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ในแหล่งผลิตเลย ไม่ว่าจะเป็นครีมอาบน้ำ โลชั่น ลิปสติก เทียนหอม ก็มีให้เลือกช้อปกันแบบจุใจ
.
นีซ ประเทศฝรั่งเศส ( Nice, France)
.
เมืองนีซ โบสถ์คาทอลิก (Cathedrale de Nice) มหาวิหารแห่งนี้ เป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิกประจำมณฑลนีซ ถือเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของเมืองนีซเลยก็ว่าได้ เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปยุคกลางที่มีความสวยงามสะดุดตา สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 13 เพื่ออุทิศให้แก่แม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ และนักบุญเรปารัตแห่งนีซ ซึ่งภายในวิหารประกอบด้วยโบสถ์น้อยจำนวน 10 หอ โดยแต่ละหอสร้างอุทิศให้นักบุญต่างๆ
.
ความงามของ ย่านเมืองเก่านีซ (Old Town) ชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารสไตล์อิตาลี สัมผัสถนนสายเล็กๆ และบรรยากาศโดยรอบที่รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านบูทีค ให้เลือกซื้อของฝาก หรือจะเลือกเก็บภาพของเมืองได้อย่างเต็มที่
.
เมืองมอนติคาร์โล (Monte Carlo) ชม สนามแข่งรถฟอร์มูลาวัน (Monaco Street Circuit) สนามแข่งรถที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง แต่ที่นี่ไม่ได้ถูกสร้างมาสำหรับแข่งรถโดยเฉพาะนะ จะเป็นเพียงถนนในเมืองที่ใช้สัญจรทั่วไป แต่ถูกนำมาใช้เป็นลานประลองความเร็วด้วย
.
ความหรูหราอลังการ ต้องที่นี่ คาสิโน มอนติ คาร์โล (Casino Monte-Carlo) สร้างขึ้นในปี 1856 ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อ Charles Garnier ด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค มีงานแกะสลัก งานหินอ่อน ห้องโถงสีทอง แถมยังเห็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้อีกด้วยนะ หรือจะเยี่ยมชม โบสถ์โมนาโก (Monaco Cathedral) โบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกขนาดใหญ่ประจำชาติ และประจำราชวงศ์โมนาโก โดยใช้เป็นที่ประกอบพิธีสำคัญทางศาสนา รวมถึงงานเลี้ยงต่างๆ มากมาย เดินชม และเก็บภาพความสวยงามของโบถส์ได้เลย
.
ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี (Florence, Italy)
.
เยี่ยมชม 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก นั่นคือ หอเอนเมืองปิซา (Leaning Tower of Pisa) สร้างด้วยหินอ่อน สูง 181 ฟุต มี 8 ชั้น ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 176 ปี และบริเวณใกล้เคียงยังสามารถเดินชมความงดงามของ มหาวิหารแห่งปิซา (Piazza dei Miracoli) สร้างอยู่ควบคู่ไปกับหอเอนปิซา ซึ่งเป็นที่เก็บรักษางานศิลปะยุคกลางที่สำคัญ และยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพบูชาอย่างสูงของอิตาลีอีกด้วย และยังสามารถเดิน ชมหอศีลจุ่ม (Pisa Baptistry) หรือ หอล้างบาป ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับผู้จะเข้ารีตเรียนรู้เรื่องศาสนาก่อนจะรับศีลจุ่ม และเป็นที่ทำพิธีต่างๆ
.
ย่านจัตุรัส Knight’s Square ชมความสวยงามของ โบสถ์ Santa Maria della Spina ซึ่งด้านหน้าของโบสถ์จะเป็นสีขาวที่ตกแต่งได้อย่างประณีต จนได้รับการยกย่องว่าเป็นโบสถ์ที่มีหน้าโบสถ์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมโกธิคยุคศตวรรษที่ 13 ตัวโบสถ์นั้นจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำ บรรยากาศดีอย่าบอกใครเลย
.
โรม ประเทศอิตาลี (Rome ,Italy)
.
ความยิ่งใหญ่ของ โรมันฟอรัม (Roman Forum) ซึ่งอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของชุมชน การเมือง ศาสนา การค้า และการปกครองอันยิ่งใหญ่ของกรุงโรม และสิ่งที่พลาดไม่ได้คือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกอย่างนึง นั่นก็คือ โคลอสเซี่ยม (Colosseum) สนามกีฬายุคโบราณที่สามารถจุคนได้ถึง 50,000 คนซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ของเมืองนี้เลยทีเดียว
.
ความสวยงามของ บันไดสเปน (Spanish Steps) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบันไดที่กว้าง และ ยาวที่สุดในทวีปยุโรป และการถ่ายภาพกับ น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) ซึ่งเป็นจุด check in สุดฮิตของกรุงโรม เป็นที่ที่ใครๆจะต้องมา ซึ่งสถานที่นี้คือ ลานน้ำพุและอนุสรณ์สถาน ที่จัดได้ว่าสวยงาม และ มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หรือจะเดินช้อบปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย หรือจะเลือกแค่เดินเก็บภาพ บรรยากาศของเมืองก็ฟินแล้ว
.
ยุโรปตะวันออก
.
ดินแดนที่เต็มไปด้วยเมือง และประเทศท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย สถาปัตยกรรมก็สวย ธรรมชาติก็งดงามเหมือนฝัน ถ่ายรูปออกมารับรองเพื่อนๆ ต้องอิจฉาแน่ๆ อย่ารอช้าดีกว่า ไปดูกัน
.
ซิซิเลีย ประเทศอิตาลี ( Sicily, Messina )
.
เยี่ยมชม มหาวิหารเมสซินา (Cathedral of Messina) ซึ่งมหาวิหารนี้ถูกสร้างขึ้นในแบบสไตล์โกธิคมีความสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งบริเวณใกล้เคียงสามารถเดินชมอาคารหอระฆัง ที่มีความงดงาม และโดดเด่นไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมี นาฬิกาดาราศาสตร์ หนึ่งเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลานน้ำพุออริออน (Orion Fountain) อีกหนึ่งลานน้ำพุที่มีความงดงาม หรืออยากเพลิดเพลินช้อบปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า Today Center ของเมืองเมสซีนา ก็เลือกเองได้เลย
.
วัลเลตตา ประเทศมอลตา (Malta)
.
ชม สวนบารัคคา (Barrakka Garden) สวนสวยที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่ภายหลังได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้ในปี ค.ศ. 1824 จากบริเวณสวนจะเห็นวิวทิวทัศน์ของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ที่สวยงาม
.
พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grandmaster’s Palace) ซึ่งปัจจุบันบางส่วนของอาคารเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยโบราณ หรือชม มหาวิหารเซนต์จอห์น ( St.John’s Cathedral) เป็นทั้งโบสถ์ และพิพิธภัณฑ์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษคือการออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิก และศิลปินชาวมอลต้า
.
โคเตอร์ ประเทศมอนเตเนโกร (Montenegro)
.
ปราสาทแห่งซาน จีโอวานนี (Castle of San Giovanni ) ปราสาทเก่าแก่สมัยยุคกลางที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาเห็นวิวอ่าวโคเตอร์ได้อย่างชัดเจน กำแพงเมือง และ ป้อมโคเตอร์ (Kotor Wall) เป็นกำแพงเมืองเก่าแก่ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป สามารถเดินขึ้นไปชมวิวมุมสูงเห็นอ่าวกอเตอร์แบบ 360 องศา สวยงามเป็นอย่างมาก ความสวยงามของโบสถ์เก่าแก่ในเมืองเก่าอย่าง St Tryphon Cathedral โบสถ์โรมันคาทอลิก ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1166 ก็สวยงาม น่าตื่นเต้น โดยถ้าใครชอบสถาปัตยกรรม บอกเลยมาที่นี่ไม่ผิดหวัง
.
ซาดาร์ ประเทศโครเอเชีย (Croatia)
.
เยี่ยมชม โรมันฟอรัม (Roman Forum) ลานประชุมกลางเมือง ที่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ยังคงมีความสวยงามอยู่นะ หรือชม โบสถ์เซนต์โดแนท (Church of St. Donat) เป็นสถานที่ใช้สำหรับทำพิธีกรรมทางศาสนา ในปัจจุบันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองซาดาร์ที่สำคัญ ในบริเวณใกล้เคียงจะมี โบสถ์เซนต์เมรี่ (St. Mary’s Church) เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับการเก็บงานศิลปะ วัตถุโบราณที่มีความสำคัญทางศาสนา ซึ่งสามารถเดินชมโดยรอบได้
.
ชมย่านเมืองเก่า หอระฆังเอียง (The Bell ) และ โบสถ์ขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับศิลปะและวัฒนธรรมจากประเทศอิตาลี ชมประตูย่านเมืองเก่าที่เคยใช้ในการต้อนรับกษัตริย์จากออสเตรียในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ช้อบปิ้งห้างสรรพสินค้า Shopping Mall Rijeka ซึ่งมีสินค้า แบรนด์เนมมากมายให้ท่านได้เลือกซื้อ
.
เวนิส ประเทศอิตาลี (Italy)
.
ข้ามเรือไปเกาะเวนิส ชมความสวยงามของ สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) และ พระราชวังดอจ (Doge’s Palace) ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่มากว่า 800 ปี เดินถ่ายรูปบริเวณ จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco) เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป เวนิสนี้เราสามารถชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส ช้อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่ หน้ากากเวนิส หรือจะเลือกนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720 ร้านกาแฟเก่าแก่ขึ้นชื่อเลยนะ
.
ช่วงฤดูที่น่าเที่ยวที่สุดของกลุ่มประเทศในยุโรปนี้ก็คือ ช่วงซัมเมอร์ หรือหน้าร้อนของยุโรปนั่นเอง ช่วงนี้จะเรียกว่าเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวแบกกระเป๋ามาเช็คอินตามเมืองยอดฮิตเป็นอย่างมาก แอบบอกเลยสำหรับคนไทย… ถ้าไปเที่ยวช่วงสงกรานต์ ช่วงรอยต่อจะถึงช่วงซัมเมอร์ของยุโรปจริงๆ อย่างเดือน พฤษภาคม จะฟินมากเลย ทั้งสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยว ไม่หนาวจนเกินไป แถมนักท่องเที่ยวชาวยุโรปยังไม่เยอะ พรุกพร่าน และที่สำคัญราคายังถูกกว่าช่วงหน้าร้อนของยุโรป
.
Back
Go to Top