Welcome to Alaska (อลาสก้า)

June 8, 2021

Welcome to Alaska (อลาสก้า)
.
Cr. https://yhoo.it/3kZo2ca
ดินแดนมหัศจรรย์ที่ใครได้เยือนต้องหลงใหลในมนต์สเน่ห์แห่งธรรมชาติอันงดงาม ใครจะรู้ว่ายังมีอีกหลายเมืองที่หลายคนมองข้าม ดินแดนที่ขอบผืนฟ้า จรดธารน้ำแข็ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคำจำกัดความของ “อลาสก้า” รัฐที่กว้างใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา แม้อลาสก้าจะเป็นดินแดน ที่ยามหน้าหนาวช่างยาวนาน หนาวเย็นสุดขั้ว แต่ความกว้างใหญ่ไพศาลของดินแดนแห่งนี้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติที่สวยงาม ระดับที่ภาพถ่ายก็ไม่สามารถสะท้อนความงามที่แท้จริงของที่นี่ได้ การได้มาสัมผัสด้วยสายตา อารมณ์ ความรู้สึก ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ทีเดียว
.
Cr. https://bit.ly/345qcjO
เมื่อใครได้มาสัมผัส อลาสก้า ก็จะได้ทำกิจกรรมหลากหลายอย่างที่นี่ มีให้เลือกเหมาะสำหรับ นักท่องเที่ยวสายรักธรรมชาติ รักการผจญภัย และการถ่ายรูป เพราะดินแดน แห่งนี้เต็มไปด้วยทัศนียภาพธรรมชาติ ที่แปลกใหม่ งดงาม อลังการ
.
Cr.https://bit.ly/3ieiJ7d / Cr. https://bit.ly/33a68NS
กิจกรรมที่น่าสนใจรอต้อนรับผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นล่องเรือชมธารน้ำแข็งสุดอลังการ หรือ Glacier ขนาดยักษ์ที่อาจได้พบปลาวาฬ โผล่ขึ้นจากผิวน้ำ หรือจะเดินบนภูเขาน้ำแข็งก็ทำได้ กิจกรรมผจญภัยแบบเอ็กซ์ตรีมต่างๆ เช่น ล่องแก่ง ปีนเขา เดินป่า คุณสามารถเลือกเดินป่าแบบ Into the Wild ที่หากโชคดีอาจได้พบกับหมีกริซลี่ตัวเป็น ๆ ด้วยนะ ชมสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ นั่งสุนัขลากเลื่อน การเล่นสโนว์ไคท์ หรือ ชมแสงเหนือมหัศจรรย์บนขอบฟ้า ไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างของที่นี่เลย
.
Ovation of the Seas
ซัมเมอร์แบบนี้ อลาสก้าถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะ ทั้งอากาศที่ไม่หวานจัดเกินไป ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกมาอลาสก้ากันช่วงนี้ และการเลือืธีการมาเที่ยวที่นี่ด้วยเรือสำราญ ก็ตอบโจทย์การมาเที่ยวแบบ Unseen เลยหล่ะ เพราะการเที่ยวทางบกด้วยตัวเองก็ค่อนข้างยากมาก ด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ธารน้ำแข็ง หรือไม่ก็ฟยอร์ด (Fjord) อ่าวแคบๆ ไม่มีถนนเข้าถึง หลายเมืองสำคัญแทรกตัวอยู่ท่ามกลางเทือกเขา แต่หากมาทางเรือเราจะได้เห็นธรรมชาติอันมหัศจรรย์เหล่านี้แบบเต็มตาและใกล้ชิดที่สุด เป็นสิ่งที่เส้นทางทางบกไม่มีโอกาสได้เห็นอย่างแน่นอน
.
วันนี้เราจะมาเจาะลึก สิ่งที่จะได้สัมผัสเมื่อมาอลาสก้า ด้วยเรือสำราญกัน รับรองไม่ผิดหวัง จะมีสถานที่ไหนน่าสนใจบ้างมาดูกัน
.
1. Glacier Bay National Park
.
Cr.https://bit.ly/3jdeKsB
อุทยานแห่งชาติกลาเซียร์ เบย์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ทุกคนต้องปักหมุดไว้เป็นอันดับต้นๆ เมื่อมาเยือนที่อลาสก้า จะได้สัมผัสกับธารน้ำแข็งขนาดยักษ์บนพื้นที่กว่า 3 ล้านเอเคอร์ ที่เกิดจากการทับถมของผลึกหิมะที่ตกลงมาทับถมกันปีแล้วปีเล่า ถ้าโชคดีหน่อยอาจจะได้เห็นภาพธารน้ำแข็งที่กำลังเลื่อนตกสู่พื้นน้ำจนทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนกลายเป็นธารน้ำแข็งอันสวยงามเกินบรรยาย ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญของอลาสก้า นอกจากนี้ อุทยานแห่งชาติกลาเซียร์ เบย์ ยังมีกิจกรรมกลางแจ้งให้เลือกทำอีกมากมาย เช่น เดินป่า ตั้งแคมป์ ปีนเขา พายเรือคายัค ล่องแก่ง ตกปลา และชมสัตว์นานาชนิด ใครที่กำลังมองหาประสบการณ์แปลกใหม่ ขอบอกเลยว่าอุทยานแห่งนี้เป็นสถานที่ไม่ควรพลาดจริงๆ
2. Inside Passage
.
Cr.https://bit.ly/2EIbtTn
เส้นทางการเดินเรือที่ล่องผ่านหมู่เกาะต่างๆ เสน่ห์ของเส้นทางนี้ คือ วิวทิวทัศน์และธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นเมืองต่างๆ ตามหมู่เกาะ เทือกเขา ธารน้ำแข็ง และเหล่าสัตว์ป่าหายากนานาพันธุ์ ระหว่างทางเราสามารถแวะเยี่ยมชมเมืองท่าต่างๆ ได้ เช่น เมืองจูโน่ เมืองสแกกเวย์ และเมืองวิกตอเรีย เป็นต้น
.
3. Hubbard Glacier
.
Cr.https://bit.ly/2GgFGt1
ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือที่มีความยาวกว่า 76 ไมล์ และลึกถึง 1,200 ฟุต ด้วยความสวยงามของวิวทิวทัศน์ และธารน้ำแข็งสุดอลังการ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่ใครๆ หลายคนต่างใฝ่ฝันว่าอยากจะมาเห็นด้วยตา แต่การชมธารน้ำแข็งนี้สามารถชมได้ทางเรือเท่านั้น ไม่มีทัวร์ชายฝั่ง การล่องเรือสำราญจึงค่อนข้างตอบโจทย์
.
4. Tracy Arm Fjord
.
Cr.https://bit.ly/3iduSJp
การกัดเซาะของธารน้ำแข็งบนเทือกเขา จนแผ่นดินเว้าแหว่งลึกลงไป พอน้ำแข็งละลายก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็งลอยกระจัดกระจายอยู่บนผิวน้ำ ถ้ามาในช่วงหน้าร้อน จะได้พบกับสัตว์ป่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น หมีสีน้ำตาล ปลาวาฬ กวาง หมาป่า แมวน้ำ และนกอีกหลากหลายชนิด แต่ถ้ามาในช่วงหน้าหนาว ทั่วทั้งบริเวณนี้จะขาวโพลนไปด้วยหิมะ ทับถมจนกลายเป็นธารน้ำแข็ง
.
5. Skagway
.
Cr.https://bit.ly/3mYoUjf
เมืองสแก็กเวย์มีความโดดเด่นในเรื่องสีสันของบ้านที่มีสไตล์แบบคาวบอย กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือ Dog Sledding ที่จะมีฝูงน้องหมาลากเลื่อนไปบนพื้นหิมะ และนั่งรถไฟสาย White Pass & Yukon Route เป็นรถไฟเก่าแก่ที่ถูกสร้างตั้งแต่ปี 1898 ใช้เพื่อขนส่งทองคำออกจากรัฐอลาสก้า ถือว่าเป็นรถไฟสายประวัติศาสตร์
.
6. Juneau
.
Cr.https://bit.ly/3kUjRP2
เมืองจูโน เมืองหลวงของอลาสก้า มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในอลาสก้า แต่กลับมีประชากรอาศัยอยู่แค่ 30,000 คนเท่านั้น เนื่องจากเมืองตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขา และทะเล ทำให้เข้าถึงได้ยากกว่าเมืองอื่นๆ เนื่องจากสามารถเดินทางได้แค่ทางเครื่องบิน หรือเรือเท่านั้น ดังนั้นภายในเมืองยังคงมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ดึดดูดให้นักเดินทางต้องมาสัมผัสให้ได้ และกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเมืองนี้ คือ การขี้นเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปบนพื้นผิวของธารน้ำแข็ง Mendenhall Glacier ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่อันดับต้นๆของอเมริกา พร้อมเดินชมถ้ำน้ำแข็ง เยี่ยมชมเหล่าสุนัขไซบิเรียนฮัสกีที่แสนน่ารัก
.
7. Ketchikan
.
.
เมืองที่เป็นแหล่งต้นกำเนิดของปลาแซลมอน ในช่วงเดือนสิงหาคมจะเป็นฤดูวางไข่ของปลาแซลมอน ก็จะเห็นหมีมาคอยจับปลาแซลมอนที่ว่ายทวนน้ำขึ้นมาวางไข่ และอีกหนึ่งสิ่งที่โด่งดังไม่แพ้กัน นั่นคือ เสาแกะสลักโทเทม (Totem Poles) ประติมากรรมงานแกะสลักบนเสาไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุนับร้อยปี ตั้งอยู่ที่ Totem Heritage Center ซึ่งเป็นผลงานของชนพื้นเมืองอเมริกันทางตอนเหนือ เมืองนี้เป็นแหล่งที่เหมาะมากสำหรับการซื้อของฝาก
.
8. Sitka
.
Cr.https://visitsitka.org/
เมืองเล็กๆ ริมอ่าวที่อุดมไปด้วยอาหารเลิศรสจากท้องทะเล มีกิจกรรมชมปลาวาฬ ที่เป็นกิจกรรมโดดเด่นของเมืองนี้
.
9. Anchorage
.
Cr.https://bit.ly/30hp2kc
เมืองที่ใหญ่ที่สุดในอลาสก้า มีประชากรกว่า 300,000 คน ภูมิอากาศโดยส่วนใหญ่จะหนาวตลอดทั้งปี ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการมาเยือนเมืองแองเคอเรจ กิจกรรม นั่งเรือเพื่อชมธารน้ำแข็ง Portage Glacier ใน Chugach National Forest หรือ แวะไปเก็บภาพ ที่ Point Woronzof Park สวนสาธารณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ชอบมาถ่ายรูปกันช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดิน ที่นี่ในช่วงฤดูหนาว จะสามารถพบเห็นแสงเหนือได้
.
10. Icy Strait Point
.
Cr.https://bit.ly/342Kf2o
โดดเด่นในเรื่องของป่าไม้ และธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่รักการเดินป่า สำรวจธรรมชาติ อากาศดีเยี่ยม ร่มรื่น กิจกรรมหลักๆ ของที่นี่จะเป็นการเดินป่าชมธรรมชาติ ชมพฤติกรรมทางธรรมชาติของหมี Grizzly ที่ดักจับปลาเทร้าส์ในลำธารบริเวณ Spasski River Valley กิจกรรมดูปลาวาฬ รวมถึงเหล่าสิงโตทะเล แมวน้ำ นกอินทรี และสัตว์ป่าอื่นๆ อีกมากมาย กิจกรรม Extreme ที่จะพาให้หวาดเสียวคือ Zip Rider โหนเชือกข้ามฝั่งกลางภูเขาที่รอบด้านเต็มไปด้วยต้นไม้ อีกทั้งระดับความสูงเหนือพื้นดิน บอกเลยว่าเสียวแน่นอน
.
บอกเลยถ้าได้มาสัมผัสที่อลาสก้าแล้ว ไม่ผิดหวังแน่นอน ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการไปเที่ยวอลาสก้า จริงๆแล้วอลาสก้านั้น มีความสวยงามแตกต่างกันในแต่ละเดือน นั่นหมายถึงว่าเราสามารถมาเที่ยวอลาสก้าได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่พีคของอลาสก้าและคนที่อยากจะท่องเที่ยวทางเรือนั้นเราขอแนะนำช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ถึงประมาณเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของที่นั่น ช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุด และอุณหภูมิไม่หนาวเย็นมากนัก และช่วงฤดูร้อนนี้เองอุทยานแห่งชาติกลาเซียร์ เบย์ จะเปิดให้เข้าชมธารน้ำแข็งด้วยนะ
.
สายเรือสำราญหลักๆ ที่ล่องในเส้นทางอลาสก้าก็มีให้เลือกมากมาย เช่น Royal Caribbean, Celebrity Cruises, Princess, Holland America, Disney, Regent Seven Seas, Oceania Cruises, Crystal Cruises, Silversea and Seabourn ลองศึกษาหาข้อมูล และปิดเทอมหน้านี้…หนีไปเที่ยวอลาสก้ากันนะ
Back
Go to Top